อะซิโตนเป็นของเหลวใสไม่มีสี ระเหยง่าย มีกลิ่นผลไม้แรง เป็นตัวทำละลายและวัตถุดิบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมเคมี ในธรรมชาติ อะซิโตนส่วนใหญ่ผลิตโดยจุลินทรีย์ในลำไส้ของสัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่น วัวและแกะ ผ่านการย่อยสลายเซลลูโลสและเฮมิเซลลูโลสในผนังเซลล์พืช นอกจากนี้ พืชและผลไม้บางชนิดยังมีอะซิโตนในปริมาณเล็กน้อยด้วย

โรงงานผลิตอะซิโตน 

 

มาดูกันว่าอะซิโตนเกิดขึ้นได้อย่างไรในธรรมชาติ อะซิโตนส่วนใหญ่ผลิตขึ้นจากการหมักของจุลินทรีย์ในกระเพาะรูเมนของสัตว์เคี้ยวเอื้อง จุลินทรีย์เหล่านี้จะย่อยสลายเซลลูโลสและเฮมิเซลลูโลสของพืชให้เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นอะซิโตนและสารประกอบอื่นๆ โดยจุลินทรีย์เอง นอกจากนี้ พืชและผลไม้บางชนิดยังมีอะซิโตนในปริมาณเล็กน้อย ซึ่งจะถูกปล่อยสู่อากาศผ่านการคายน้ำ

 

ทีนี้เรามาพูดถึงการใช้งานของอะซิโตนกัน อะซิโตนเป็นตัวทำละลายและวัตถุดิบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมเคมี อะซิโตนสามารถนำไปใช้ผลิตพลาสติไซเซอร์ สี กาว และอื่นๆ ได้หลากหลายชนิด นอกจากนี้ อะซิโตนยังใช้สกัดน้ำมันหอมระเหยและเป็นสารทำความสะอาดได้อีกด้วย

 

มาสำรวจประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตอะซิโตนกันก่อน ประการแรก การผลิตอะซิโตนผ่านการหมักจุลินทรีย์ในสัตว์เคี้ยวเอื้องจำเป็นต้องใช้เส้นใยพืชจำนวนมากเป็นวัตถุดิบ ซึ่งจะเพิ่มภาระให้กับระบบย่อยอาหารของสัตว์เหล่านี้และอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ นอกจากนี้ การผลิตอะซิโตนผ่านการหมักจุลินทรีย์ยังมีข้อจำกัดจากปัจจัยต่างๆ เช่น คุณภาพอาหารสัตว์และสุขภาพของสัตว์ ซึ่งอาจส่งผลต่อผลผลิตและคุณภาพของอะซิโตน ประการที่สอง การใช้อะซิโตนอาจก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม อะซิโตนสามารถระเหยสู่อากาศได้ง่าย ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของสัตว์และมนุษย์ นอกจากนี้ อะซิโตนยังอาจก่อให้เกิดมลพิษต่อน้ำใต้ดินหากไม่ได้รับการบำบัดอย่างเหมาะสมก่อนปล่อยทิ้ง

 

อะซิโตนเป็นสารประกอบทางเคมีที่มีประโยชน์อย่างมาก อย่างไรก็ตาม เราควรใส่ใจในกระบวนการผลิตและการใช้งานด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าอะซิโตนจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม


เวลาโพสต์: 18 ธันวาคม 2566